ทับทิม (Pomegranate) จัดเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดต่างถิ่น แต่นิยมปลูก และรับประทานมากในปัจจุบัน เนื่องจาก ผลมีเนื้อหุ้มเมล็ดที่ให้น้ำฉ่ำหวานอมเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยสารอาหาร และสารที่ออกฤทธิ์ทางยาหลายชนิด รวมถึงทั้งลำต้นสามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรสำหรับบรรเทา และรักษาโรคได้หลายชนิด
ประวัติทับทิม
ทับทิมมีถิ่นกำเนิด และพบมีการปลูกครั้งแรกในเอเชียไมเนอร์ (ประเทศอิหร่าน และประเทศใกล้เคียง) กว่า 300 ปี ก่อนคริสตกาล แล้วค่อยแพร่ไปในแถบประเทศเมดิเตอร์เรเนียน เอเชียตะวันออก และอเมริกา
การแพร่เข้ามาของทับทิมสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น จะแพร่เข้าผ่านมา 2 ทาง คือ ประเทศอินเดีย และประเทศจีนในราวศตวรรษที่ 3-4 ส่วนประเทศไทยน่าจะแพร่เข้ามาในช่วงสมัยอยุธยา ผ่าน 2 ทาง เช่นกัน คือ ทั้งทางประเทศอินเดีย และศรีลังกา และอีกทางคือ มาจากประเทศจีน ซึ่งจะมาจากการติดต่อค้าขายจากชาวจีน และอินเดีย
พันธุ์ทับทิมเก่าแก่ที่มีการปลูกทับทิมในประเทศไทยในระยะแรกนั้น คือ พันธุ์บางปลาสร้อย ที่มีแหล่งปลูกมากในแถบภาคใต้บริเวณอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียง แล้วค่อยแพร่ไปสู่จังหวัดอื่นๆ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
รากทับทิม
รากทับทิมตามธรรมชาติที่ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดจะมีระบบรากแก้ว และรากฝอย หากขยายพันธุ์ด้วยการตอนจะมีเพียงระบบรากฝอย
ลำต้นทับทิม
ทับทิมจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แต่มีอายุนานได้ถึง 100 ปี ลำต้นสูงประมาณ 2-4 เมตร ลำต้นแตกกิ่งตั้งแต่ระดับล่าง ลำต้นมีเปลือกบาง และติดแน่นกับแก่นไม้ ผิวลำต้นมีสีเทา และเป็นมันเงา ส่วนเนื้อไม้มีลักษณะแข็ง และเหนียว ยอดหรือกิ่งอ่อนมักเป็นเหลี่ยม และมีหนามยาว แต่หนามไม่แข็ง และไม่คม
ผลทับทิม
ผลทับทิมมีลักษณะกลม ขนาดผลประมาณ 8-10 ซม. เปลือกผลหนา ผิวเปลือกเกลี้ยง และเป็นมันวาว ผลสุกมีเปลือกสีเหลืองอมแดงหรือบางพันธุ์มีสีแดงอมชมพู เมื่อสุกมาก เมล็ดด้านในจะขยายทำให้เปลือกปริแตก ภายในผลมีเมล็ดที่ถูกแบ่งเป็นช่องด้วยเยื่อสีครีมอมเหลือง จำนวน 5 ช่อง แต่ละช่องมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดมีเนื้อหุ้มที่ฉ่ำด้วยน้ำหวาน รูปทรงสี่เหลี่ยม เนื้อนี้ใช้รับประทาน มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อเมล็ดที่ยังไม่สุกมีสีขาวอมชมพู และเมื่อผลสุกจะมีสีชมพูอมแดงหรือแดงเข้ม ส่วนเมล็ดที่เอาเนื้อออกแล้วจะมีลักษณะยาวรี ทั้งนี้ หลังจากติดผลจนถึงผลแก่เต็มที่จะใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน
ประโยชน์ทับทิม
เนื้อเมล็ด และเมล็ด
1. เนื้อหุ้มเมล็ดนิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้สด หรือ นำมาคั้นน้ำที่เรียกว่า น้ำทับทิม
2. เมล็ดทับทิมนำมาสกัดน้ำมันสำหรับใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง
เปลือกทับทิม
1. สารสกัดจากเปลือกทับทิมนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง